16 ไอเดียการ ตั้งโปรโมชั่น ให้ปังกระตุ้นยอดขายได้ไม่รู้จบ

มิถุนายน 27, 2025 Marketing

การทำโปรโมชันใหม่คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ และรักษาลูกค้าประจำให้อยู่กับแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ว่าใครก็ชอบข้อเสนอที่คุ้มค่า และพร้อมจะกลับมาซ้ำเมื่อเจอโปรโมชันที่ใช่ วันนี้ DeepBLOK รวบรวม 16 ไอเดียโปรโมชันเด็ด ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจ พร้อมกระตุ้นยอดขายให้พุ่งแบบจับต้องได้ อยากให้ร้านของคุณมีโปรที่ลูกค้ารอคอย? ไปดูพร้อมกันเลย

1.โปรโมชั่น 1 แถม 1

กลยุทธ์สุดคลาสสิกที่ขายดีทุกยุค

ไม่ว่าจะยุคไหน “ซื้อ 1 แถม 1” ก็ยังเป็นโปรโมชั่นที่ได้ผลเสมอ เพราะให้ความรู้สึก “คุ้ม” แบบไม่ต้องคิดเยอะ ลูกค้าที่อาจลังเลจะซื้อ ก็ตัดสินใจง่ายขึ้นทันที แถมยังช่วยเร่งการตัดสินใจของลูกค้าใหม่ และดึงดูดลูกค้าประจำให้ซื้อซ้ำได้อีก

โปรโมชั่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการระบายสต๊อก หรือเปิดตัวสินค้าใหม่ ให้ลูกค้าได้ลองใช้โดยไม่รู้สึกเสี่ยง และยังเพิ่มโอกาสในการขายซ้ำในอนาคตได้อย่างแนบเนียน

2.โปรโมชั่น “ลดราคาสินค้าเป็นเปอร์เซ็นต์”

พื้นฐานแต่ทรงพลัง จัดได้ทุกช่วงเวลา

การลดราคาด้วยเปอร์เซ็นต์เป็นหนึ่งในไอเดียโปรโมชั่นยอดฮิตที่ใช้ได้กับทุกธุรกิจ เพราะเข้าใจง่าย เห็นชัด และให้ความรู้สึก “คุ้ม” ในสายตาลูกค้า ยิ่งลดเยอะ ยิ่งดึงดูดสายตา — ไม่ว่าจะเป็น 5%, 10%, 15% หรือแม้แต่ 90% ก็สามารถใช้ได้ทั้งในช่วงเวลาปกติ และแคมเปญพิเศษต่าง ๆ เช่น วันเกิดร้าน, สินค้าใหม่, หรือเทศกาลสำคัญ

ข้อดีของการลดแบบ % คือ ทำให้ลูกค้ารับรู้ถึง “มูลค่าที่ลด” ได้ดีกว่าการลดแบบตัวเลข
เช่น เสื้อราคา 200 บาท ลด 10% ลูกค้าจะรู้สึกคุ้มกว่าแม้จะลดเท่ากับ 20 บาทก็ตาม เพราะตัวเลขเปอร์เซ็นต์ทำให้รู้สึกว่าลดเยอะกว่า ทั้งที่มูลค่าลดจริงเท่ากัน

ไอเดียนี้เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ลองปรับใช้กับสินค้าเร่งขาย หรือหมุนเวียนสต๊อกได้ทันที!

3. โปรโมชั่น “Flash Sale / Flash Deal”

ปลุกยอดขายในพริบตา ด้วยดีลจำกัดเวลา

Flash Sale คือไม้เด็ดที่บีบให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อทันที เพียงกำหนดช่วงเวลาสั้น ๆ — เช่น 19.00-21.00 น. ลดทันที 50% — หรือแคมเปญตัวเลขฮิต 1.1, 6.6, 9.9, Mid-Year Sale ฯลฯ ก็ทำให้คนรู้สึก “ต้องรีบกดก่อนของหมด!”

ทำไมเวิร์ก?

  • สร้าง FOMO (Fear of Missing Out) ดัน Conversion พุ่งในไม่กี่นาที

  • เคลียร์สต๊อกเร็ว พร้อมจุดกระแสบนโซเชียล

  • จัดสม่ำเสมอ = ตอกย้ำแบรนด์ ลูกค้าเห็นเวลาไพรม์ไทม์ก็คิดถึงคุณทันที

Tips

  1. โปรโมตล่วงหน้าเล็กน้อย สร้างการรอคอย

  2. ส่งแจ้งเตือน LINE OA / Push Notification ก่อนเริ่ม 5 นาที

  3. จบ Flash Sale แล้วต่อด้วยดีลเสริม (Up-sell / Cross-sell) เก็บยอดเพิ่มอีกชั้น

4.โปรโมชั่น “สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก”

ปลูกใจให้รัก สร้างลูกค้าประจำอย่างยั่งยืน

การจัดโปรโมชั่นสำหรับสมาชิก ไม่ใช่แค่การให้ส่วนลด — แต่คือการสร้างระบบความสัมพันธ์ระยะยาว (Loyalty Program) ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึก “พิเศษ” และอยากกลับมาใช้จ่ายซ้ำอีกครั้ง

ตัวอย่างสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก:

  • สะสมแต้มทุกการซื้อ แลกรับส่วนลดหรือของรางวัล

  • รับสิทธิพิเศษเฉพาะเดือนเกิด

  • จัดระดับสมาชิก (เช่น Silver / Gold / Platinum) พร้อมสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นตามยอดใช้จ่าย

หัวใจสำคัญคือ: เลือกรางวัลที่ “คุ้ม” และ “น่าดึงดูดพอ” ที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “เป็นสมาชิกแล้วได้อะไรที่คนทั่วไปไม่ได้” นั่นแหละคือแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นแฟนประจำของร้านคุณ

5. โปรโมชั่น “แจก Voucher หรือคูปองส่วนลด”

เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นแฟนคลับของร้านคุณ

การแจกเวาเชอร์หรือคูปองส่วนลด เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลเสมอ ไม่ว่าจะกับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าประจำ เพราะนอกจากจะช่วยกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำแล้ว ยังเป็นการ “ขอบคุณ” ลูกค้าอย่างมีสไตล์ ด้วยสิทธิพิเศษที่จับต้องได้

ตัวอย่างการใช้งานทำโปรโมชั่น:

  • แจกคูปองลด 50 บาท เมื่อซื้อครบ 300 บาท

  • มอบคูปองส่วนลดแทนเงินสด 10% สำหรับลูกค้าที่ซื้อครั้งแรกเพื่อใช้ในครั้งถัดไป

  • ส่งคูปองผ่าน LINE OA สำหรับระดับสมาชิก Gold

จุดเด่นของโปรนี้คือ:

  • ใช้งานง่าย ลูกค้ารับสิทธิ์ได้ทันที

  • กระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำแบบไม่รู้ตัว

  • ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า

ถ้าออกแบบให้ดีและมอบในเวลาที่เหมาะสม คูปองใบเล็ก ๆ ใบนึง อาจสร้างยอดขายก้อนใหญ่ให้คุณได้เลย!

6. โปรโมชั่น “รีวิวสินค้าพร้อมรับสิทธิพิเศษ”

กระตุ้นยอดขาย พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากซื้อ

อยากให้ลูกค้าใหม่อยากลอง อยากให้ลูกค้าเดิมกลับมา — โปรนี้ตอบโจทย์! แค่ให้ลูกค้า รีวิวสินค้า/บริการ หลังการซื้อ แล้วรับส่วนลด ของแถม หรือแต้มสะสมไปเลย เป็นการ “ขอบคุณลูกค้า” ที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ และยังช่วยให้ร้านได้ คอนเทนต์จริงจากผู้ใช้งานจริง มาใช้โปรโมทต่อได้อีกด้วย

ทำไมถึงเป็นที่นิยม

  • รีวิวคือพลัง! ลูกค้าใหม่ตัดสินใจง่ายขึ้นจากเสียงของลูกค้าเดิม

  • ช่วยโปรโมทร้านแบบไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

  • สร้าง Social Proof บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น LINE, Facebook, Google Maps, Shopee, Lazada

ตัวอย่าง:

  • รีวิวหน้าเพจ รับส่วนลด 10 บาท

  • ถ่ายรูปคู่สินค้าลงโซเชียล พร้อมติด #ชื่อร้าน รับฟรีเครื่องดื่ม

  • รีวิว 3 ครั้งสะสม แลกรับของขวัญพิเศษ

7. โปรโมชั่น “สะสมแต้ม แลกรางวัล”

ยิ่งซื้อ ยิ่งได้ใจ – กลยุทธ์สร้างลูกค้าประจำแบบยั่งยืน

การให้ลูกค้าสะสมแต้มเพื่อแลกรับของรางวัล หรือสินค้าฟรี คือหนึ่งในวิธีที่ได้ผลที่สุดในการดึงดูดลูกค้าให้ “ซื้อซ้ำ” และ “ผูกพันกับแบรนด์” มากยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้งที่ลูกค้าจ่ายเงิน ก็รู้สึกว่าได้สะสมบางอย่างกลับคืนมา

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัด:

  • เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำมากถึง 60–80% อ้างอิงจาก Numberanalytic

  • ประหยัดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่

  • สร้างความรู้สึกมีส่วนร่วม ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ให้ “รางวัล” ตอบแทนความภักดี

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นสะสมแต้ม

  • ซื้อครบ 100 บาท รับ 1 แต้ม 

  • ยอดซื้อครบ 1000 บาท รับแต้มพิเศษ  20%
  • สะสมครบ 10 แต้ม แลกฟรีเมนูพิเศษ

  • แต้มมีวันหมดอายุ พร้อมแจ้งเตือนอัตโนมัติ กระตุ้นให้ลูกค้ารีบกลับมาใช้สิทธิ์

ระบบนี้สามารถผูกกับ LINE OA หรือแอปสะสมแต้มต่าง ๆ ได้ทันที ช่วยให้ติดตามง่าย ใช้งานสะดวก และสร้างความผูกพันได้แบบระยะยาว!

8. โปรโมชั่น “Cashback”

ช้อปได้คุ้มกว่าเดิม ยิ่งซื้อยิ่งได้คืน

โปรแคชแบ็ก หรือโปรคืนเงิน ร่วมกับบัตรเครดิต กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าในทุกการซื้อ ไม่เพียงแค่ได้สินค้าที่ชอบ แต่ยังได้รับเครดิตเงินคืนไว้ใช้จ่ายในภายภาคหน้าอีกด้วย

โปรนี้จึงช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เพิ่มยอดขายและความผูกพันกับร้านของคุณในระยะยาว

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นCashback

มอบเครดิตคืนประมาณ 5% ต่อบิล เป็นจุดเริ่มต้นที่ลงตัวสำหรับทั้งร้านค้าและลูกค้า หากอยากเพิ่มเปอร์เซ็นต์ก็ทำได้ แต่อย่าลืมคำนวณต้นทุนให้รัดกุม เพื่อให้โปรโมชั่นยังคงกำไรได้ดี

หรืออย่างในบางกรณีแบรนด์ก็เลือกใช้วิธีการมอบคูปองส่วนลดแทนเงินสดให้กับลูกค้าเพื่อมาใช้บริการในครั้งถัดไปแทน

9. โปรโมชั่นเฉพาะบุคคล

โปรที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าคนพิเศษอย่างคุณ

มอบโปรโมชั่นเฉพาะบุคคลที่ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละราย เช่น ส่วนลดสินค้าที่ชอบ, คูปองส่วนลดวันเกิด, หรือข้อเสนอพิเศษตามประวัติการซื้อ

การทำโปรโมชั่นแบบนี้ช่วยเพิ่มความพึงพอใจ สร้างความรู้สึกว่าแบรนด์ใส่ใจ และช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นเฉพาะบุคคล

  • ส่งคูปองหรือสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า Gold Member
  • ส่งข่าวสารให้กับลูกค้าคนพิเศษรายบุคคล แจ้งเตือน
  • โปรโมชั่นพิเศษกับกลุ่มลูกค้าเช่นคนที่มาใช้บริการ 10ครั้งในเดือนที่ผ่านมา
  • ส่ง Win-back-campaign ให้กับลูกค้าที่กำลังจะหายไป

10. โปรโมชั่น “สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่”

ดึงดูดใจลูกค้าใหม่ ให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

เมื่อลูกค้าใหม่เข้ามาที่หน้าร้านหรือร้านค้าออนไลน์ของคุณ แปลว่าพวกเขาสนใจสินค้าและมีโอกาสจะซื้อสูง
โปรโมชั่นส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เช่น ลด 10% หรือ 15% จะช่วยกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ไม่ต้องลังเลนาน

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นกับลูกค้าใหม่

  • ให้ส่วนลด 10% ในการมาใช้บริการในครั้งถัดไป 
  • ให้คะแนนสะสมสำหรับสมาชิกใหม่ 
  • ได้รับส่วนลดพิเศษ 15% สำหรับเมนูแนะนำ  

ด้วยข้อเสนอสุดคุ้มนี้ ลูกค้าที่เข้ามาดูสินค้าจะกลายเป็นผู้ซื้อได้อย่างz และยังเป็นการสร้างความประทับใจแรกที่ดี ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้กลับมาซื้อซ้ำในอนาคต

11. Festive Promotion
(Black Friday & Cyber Monday)

เทศกาลลดราคาที่นักช็อปทั่วโลกตั้งตารอ

Black Friday คือวันศุกร์หลังวัน Thanksgiving ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเทศกาลลดราคาครั้งใหญ่ ที่สินค้าหลากหลายชนิดลดราคากระหน่ำจนเรียกได้ว่า “ลดแบบจัดเต็ม”
แม้จะเริ่มต้นจากอเมริกา แต่ปัจจุบัน เทศกาลนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงในไทยที่หลายร้านก็จัดโปรแรงไม่แพ้กัน

ต่อด้วย Cyber Monday วันจันทร์ถัดมา ที่เปิดโอกาสให้ขาช็อปออนไลน์ได้ลุ้นโปรโมชั่นต่อเนื่อง สำหรับคนที่พลาด Black Friday

การเข้าร่วมเทศกาลนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการระบายสต็อกหรือเพิ่มยอดขายเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญที่แบรนด์สื่อสารความใส่ใจ คืนกำไรให้ลูกค้า
ทั้งช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่า และดึงดูดลูกค้าใหม่ในเวลาเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ

12. โปรโมชั่น “ฟรีค่าส่ง (Free Delivery)”

กดสั่งง่าย ไม่ต้องกังวลค่าส่ง จับใจนักช็อปออนไลน์

ค่าส่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าออนไลน์ตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ เพราะถ้าค่าส่งแพงเกินไป บางคนก็ยอมถอยและไม่กดสั่ง ดังนั้นโปรโมชั่นฟรีค่าส่งจึงเป็นตัวช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ให้กล้าเปิดใจลองซื้อกับร้านของคุณได้ง่ายขึ้น

แต่ทั้งนี้ ผู้ขายต้องวางแผนคำนวณต้นทุนค่าส่งให้ดี เพื่อไม่ให้ขาดทุน อาจกำหนดเงื่อนไข เช่น จำกัดน้ำหนักสินค้าต่อออเดอร์ หรือกำหนดขั้นต่ำยอดสั่งซื้อก่อนรับสิทธิ์ฟรีค่าส่ง เพื่อความสมดุลของธุรกิจ

โปรโมชั่นนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้เป็น “เหยื่อล่อ” ในแคมเปญส่งเสริมการขายออนไลน์ ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

13. โปรโมชั่น “Gift with purchase”

ของฟรีใครๆ ก็รัก ช่วยโปรโมทสินค้าใหม่ได้อย่างทรงพลัง

การแจกของกำนัล หรือ ตัวอย่างสินค้าเพิ่ม ก็เป็นวิธีที่ได้ผลดีในการดึงดูดความสนใจของลูกค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ลูกค้าอาจยังไม่เคยรู้จักหรือยังลังเลว่าจะลองซื้อหรือไม่ เช่น โลชั่น, เซรั่ม, ครีมกันแดด หรือน้ำหอม

การแจกของกำนัลฟรีไม่เพียงแต่ช่วยสร้างการรับรู้และความคุ้นเคย แต่ยังเป็นการส่งมอบประสบการณ์ตรงที่ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าขนาดจริงในอนาคต

หากคุณมีสินค้าใหม่ที่อยากโปรโมท แนะนำให้ลองใช้โปรร่วมกับของกำนัล หรือแจกตัวอย่างฟรีดู รับรองว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายในระยะยาวอย่างเห็นผล!

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นGWP 

เมื่อซื้อ Exclusive Set ในราคา 2,000 บาท รับฟรี Travel set มูลค่า 1,000 บาทฟรี

14. โปรโมชั่นในรอบเดือนเกิด

เฉลิมฉลองวันพิเศษด้วยสิทธิพิเศษที่คุณคู่ควร
เดือนเกิดคือช่วงเวลาที่ใครก็อยากได้รับความพิเศษ! มอบโปรโมชั่นสุดว้าวให้กับลูกค้าในเดือนเกิดของพวกเขา เช่น ส่วนลดพิเศษ, ของขวัญฟรี หรือแต้มสะสมเพิ่ม เพื่อสร้างความประทับใจและกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ

โปรนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังเสริมความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นเดือนเกิด

  • รับฟรีเมนูพิเศษในเดือนเกิด 
  • คะแนน *2 พิเศษในเดือนเกิด

15. Anniversary Promotion (ครบรอบการเป็นสมาชิก)

ฉลองวันครบรอบสมาชิกด้วยของขวัญสุดพิเศษ
เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจและอยู่เคียงข้างกันมาอย่างยาวนาน จัดโปรโมชั่นครบรอบการเป็นสมาชิก เช่น แจกส่วนลดพิเศษ, ของรางวัล หรือสิทธิประโยชน์เฉพาะสมาชิก
แคมเปญนี้ช่วยสร้างความรู้สึกผูกพันและกระตุ้นให้ลูกค้ารักษาความสัมพันธ์กับแบรนด์ต่อไป

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นครบรอบการเป็นสมาชิก

  • รับฟรีบัตรกำนัล ซื้อจิวเวอรี่ มูลค่า 10,000 บาท
  • ได้รับสิทธิร่วมกิจกรรม สุด Exclusive 

16. โปรโมชั่นพิเศษตามรายการสินค้า

จัดโปรเด็ด ๆ เฉพาะสินค้ารายการพิเศษ
เลือกรายการสินค้าที่ต้องการเร่งยอดขาย หรือเป็นสินค้าฮิตมาโปรโมทด้วยโปรโมชั่นเฉพาะ เช่น

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นตามรายการสินค้า

  • ลดราคาพิเศษ, ซื้อ 1 แถม 1, หรือแถมของแถม เมื่อซื้อเมนู ประจำวัน ในช่วงเวลา 18.00-19.00 น.
  • พิเศษคะแนน * 2 ตามช่วงเวลา และสาขา เมื่อซื้อเมนู แซลมอนซาซิมิ
  • คะแนนพิเศษ 100 คะแนนเมื่อซื้อ เมนูลาบปลาดุก ในเวลา 21.00-22.00

    โปรโมชั่นแบบนี้ช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น
    และยังช่วยจัดการสต๊อกสินค้าที่ต้องการเร่งระบาย

ซึ่งจากโปรโมชั่นทั้งหมดที่เราได้กล่าวมาข้างต้นสามารถ คุณสามารถทำได้ด้วย ระบบสมาชิก DeepBLOK ของเราและต่อยอดการทำธุรกิจของคุณให้นำคู่แข่งไปอีกขั้น นอกจากนี้หากคุณทำโปรโมชั่น ได้โดนใจลูกค้า ยังสามารถ ลดต้นทุนการตลาดในการหาลูกค้าใหม่ หันมารักษาลูกค้าประจำและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นอีกด้วย

จากโปรโมชั่นทุกรูปแบบที่เราได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นเฉพาะบุคคล โปรโมชั่นวันเกิด โปรโมชั่นตามรายการสินค้า หรือโปรโมชั่นครบรอบสมาชิก

คุณสามารถออกแบบและจัดการได้ทั้งหมดผ่าน ระบบสมาชิก DeepBLOK
ที่ช่วยให้การวางแผนการตลาดของคุณเป็นเรื่องง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

DeepBLOK ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระบบเก็บข้อมูลลูกค้า
แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณ ต่อยอดธุรกิจให้เหนือกว่าคู่แข่ง
เพราะเมื่อคุณเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างลึกซึ้ง
คุณก็สามารถมอบข้อเสนอที่ตรงใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าได้มากขึ้น

นอกจากนี้ หากคุณสามารถออกแบบโปรโมชั่นให้ “ตรงจุด” และ “โดนใจ” ลูกค้าได้จริง
ก็จะช่วยให้คุณ ลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่
และหันมาเน้นสร้างยอดขายจากฐานลูกค้าประจำที่มีคุณภาพ
ซึ่งเป็นแนวทางที่คุ้มค่าและยั่งยืนกว่าในระยะยาว

ระบบสมาชิก

ระบบสมาชิก DeepBLOK สามารถช่วยคุณได้อย่างไร

                    ระบบสมาชิกของเราช่วยให้คุณ สร้างวิธีการสะสมคะแนนได้หลากหลายวิธี เช่น สมัครสมาชิกใหม่ เข้าร่วมกิจกรรม ให้คะแนนตามระดับสมาชิก หรือซื้อสินค้าครบตามกำหนดหรือตามรายการสินค้า แลกคะแนนได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเป็นของรางวัลสุดพิเศษ 
ส่วนลด บัตรกำนัล หรือร่วมสนุกกับเกมส์และกิจกรรมต่างๆ ที่คุณออกแบบเองได้  มี APIs พร้อมเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น POS E-commerce หรือ Delivery เป็นต้น 

 

และข้อได้เปรียบอื่นๆที่ ระบบสมาชิก DeepBLOK แตกต่างจากระบบอื่นๆ

    • เริ่มต้นได้ง่าย เพียง 1,500 บาท ต่อเดือน สำหรับลูกค้าที่สมัครสมาชิก ไม่เกิน 2,000 คน ไม่มีการจำกัดฟังก์ชั่น
    • รองรับการเล่นโปรโมชั่น ให้คะแนนในระดับสินค้า
    • รองรับการเล่นโปรโมชั่น ลูกค้าซื้อสินค้า และได้รับคูปองส่วนลด เพื่อใช้ในบิลถัดไป อัตโนมัติ
    • รองรับการใช้งานหลายแบรนด์ ในระบบสมาชิกเดียวกัน
    • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน APIs (POS, Website, Mobile application, ERP และอื่นๆ)
    • รองรับการตั้งข่าวสาร แคมเปญแลกคะแนน แบบเฉพาะบุคคล (Personalized News & Campaign)
    • ไม่จำกัดจำนวนสมาชิก จำนวนแบรนด์ จำนวนสาขา จำนวน Admin
    • รองรับการแบ่งกลุ่มชั้นสูง (กลุ่มลูกค้าซื้อเยอะ ซื้อน้อย หรือ กลุ่มที่กำลังจะหายไป [Advanced Segmentation]
    • รองรับการส่ง Promotion ผ่าน Line Notification เฉพาะบุคคล (Targeted Campaign)

ลงทะเบียนดูระบบผ่านออนไลน์มีตติ้งกับเราที่นี่ (พูดคุยกับเรา) หรือแอด (LINE OA) เพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใคร!!!

Related content

ยกระดับธุรกิจ สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
ผ่านการสร้างความสัมพันธ์ลูกค้า